PROPLUS UM-10 ไมค์ลอยคู่

รายละเอียดเพิ่มเติม

Proplus UM-10

ไมค์ลอยคู่ งบไม่เกิน 3,000 บาท !!

ภาพรวม Proplus UM-10

Proplus UM-10 ได้มีไมโครโฟนมาให้ในชุดถึง 2 ตัว และชุดย้ายเสา Antenna จำนวน 2 ชุดด้วยกัน นอกจากนี้ UM-10 ยังรองรับช่วงความถี่ UHF 2 แชนแนล อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนช่องความถี่ได้ตั้งแต่ 694 – 703MHz และ 748 – 758MHz ซึ่งเป็นช่วงความถี่ใหม่ ที่รับรองโดย กสทช. เท่านั้นยังไม่พอ UM-10 ยังสามารถใช้ร่วมกันได้ถึง 4 ชุดด้วยกัน มีระยะใช้งานไกลถึง 60 เมตร และตัว Receiver สามารถยึดติดกับแร็คขนาดมาตรฐาน 19″ ได้

ภาพรวมถือว่าเป็นไมค์ลอยคู่ที่ใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย มี Feature ต่าง ๆ ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา การเปลี่ยนช่องความถี่ได้ ชุดย้ายเสา Antenna หรือแม้แต่จอแสดงผลแบบ LED ซึ่ง Feature ต่าง ๆ เหล่านี้ เรามักจะพบอยู่ในชุดไมค์ลอยราคาหลักพันปลาย ๆ จนถึงหลักหมื่นขึ้นไป สำหรับผู้ที่กำลังมองหาไมโครโฟนไรสายคุณภาพดี ในราคาที่เป็นมิตรไว้ใช้งาน Proplus UM10 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

Receiver (เครื่องรับสัญญาณ)

ที่ด้านหน้าของ Receiver จะมีปุ่มปรับ Volume แยกกันอิสระระว่าง Channel A และ B สำหรับการควบคุมระดับความดังของเสียง และทั้งที่ตัว Receiver และที่ตัวของไมโครโฟน จะมีจอแสดงผลแบบ LED ซึ่งถือว่าเป็นไมค์ลอยในเรทราคานี้ไม่กี่รุ่น ที่มีทั้งจอ LED และจำนวนไมค์ถึง 2 ตัว อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนช่องความถี่ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม.. ในการที่จะเปลี่ยนช่องความถี่นั้น คุณสามารถที่จะทำได้แค่เพียงการกดปุ่ม SET ที่ตัวไมโครโฟน UM-10 จะสแกนหาช่องความถี่ที่ไม่ทับกับสัญญาณไมค์ตัวอื่น ๆ และซิงค์กันให้โดยอัตโนมัติ นอกจากปุ่มปรับ Volume ที่ด้านหน้าของ Receiver แล้ว ที่ตัวของไมโครโฟนแต่ละตัวเองก็มีเช่นกัน

Microphone Transmitter (ไมโครโฟน / เครื่องส่งสัญญาณ)

โทนเสียงของไมโครโฟนค่อนข้างมีความโดดเด่นในโทนเสียงต่ำ ทำให้มีเนื้อเสียงที่หนา มีน้ำมีนวลพอสมควร และมีโทนเสียงย่านกลางที่ชัดเจน เมื่อเทียบกับเนื้อเสียงของไมโครโฟนในเรทราคาเดียวกัน

ซึ่งก็จะเหมาะกับใช้งานเบา ๆ เป็นไมค์ร้องคาราโอเกะ หรือไมค์ประกาศในห้องประชุมอเนกประสงค์ทั่วไป เป็นต้น ที่ไม่ซีเรียสว่าต้องให้ได้เสียงที่ดีเยี่ยม หรือถึงขนาดต้องไปเปรียบเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีราคาที่สูงกว่ามาก ๆ

ในการใช้งานจริง… บางครั้งคุณอาจจะต้องทำการ EQ โทนเสียง หรืออย่างน้อย Low Cut เผื่อไว้บ้างตามความเหมาะสม ยกตัวอย่าง เช่น ในกรณีที่คุณใช้งานในพื้นที่ Indoor หรือสถานที่ที่มีการตอบสนองต่อย่านเสียงต่ำมากเป็นพิเศษ การ Low Cut เผื่อเอาไว้ให้มีความเหมาะสมกับสถานที่ต่าง ๆ ก็จะช่วยให้เสียงมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และลดความเบลอ และความหึ่งของโทนเสียงต่ำที่มากเกินความจำเป็น

สรุปข้อโดดเด่น

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นไมค์ลอยที่ใช้งานง่าย ติดตั้งง่าย มี Feature ต่าง ๆ ที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เช่น ไมโครโฟนจำนวน 2 ตัว การเปลี่ยนช่องความถี่ได้ ชุดย้ายเสา Antenna หรือแม้แต่จอแสดงผลแบบ LED ซึ่ง Feature ต่าง ๆ เหล่านี้ เรามักจะพบอยู่ในชุดไมค์ลอยราคาหลักพันปลาย ๆ จนถึงหลักหมื่นขึ้นไป สำหรับผู้ที่กำลังมองหาไมโครโฟนไร้สายคุณภาพดี ในราคาที่เป็นมิตรไว้ใช้งาน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจครับ